วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รองเท้าแม่กับฉัน

รองเท้าแม่กับฉัน


บทความนี้ไม่ใช่เรียงความภาษาไทยชั้นประถม แต่ถ้าภาษาที่ใช้ใกล้เคียง ต้องขออภัยที่ทำให้ท่านเสียเวลาอ่าน
โปรดใช้วิจารณญาณ ในกาาร(จะ)สูดดม(กลิ่นรองเท้า)

ภาพที่เห็นด้านบนคือ รองเท้าผ้าใบของฉัน (ทางขวา) และรองเท้าหนังของแม่ (ทางซ้าย)
มันถูกวางอยู่ในสภาพนั้น โดยไม่ผ่านการจัดวาง เหมือนการจัดตั้งของม็อบบางกลุ่ม
ฉันกับแม่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน (หลายชม. แต่อยากจะพูดว่า "เพิ่งกลับมา" โอเคมั้ย?)
ตอนนี้ทั้งบ้านอบอวลด้วยกลิ่นแกงส้มผสม หน่อไม้ดอง และอาจจะมีปลาร้าด้วย
แม่เจ็บไปเล็กน้อยที่ไม่ได้ถามคนขาย เราเสียใจเล็กน้อยเช่นกัน ที่กินได้ไม่เยอะ
แม่ไปซื้อของที่เดอะมอลล์ หิ้วของกลับมาเยอะมาก เยอะกว่าฉันที่หิ้วของกลับมาเองเวลาไปซื้อของวันอาทิตย์เสียอีก

แม่นั่งรอฉันอยู่หน้าบ้าน ตอนมาถึง แม่โทรมา ฉันกำลังอยู่บนรถตู้ซึ่งแล่นอยู่บนทางด่วน
โดยที่ข้างๆ เป็นผู้ชายที่ความน่ากลัวอยู่ในระดับ ที่ฉันหลับไม่ลง แม้ว่าฉันจะง่วงมากแค่ไหนก็ตาม 
(คือ แม่งนั่งกินที่ และดูเมายาหน่อยๆ มิน่าคนที่ขึ้นมาก่อนพร้อมใจกันเว้นที่นี้ไว้ให้ฉัน)

เมื่อฉันมาถึงหน้าหมู่บ้าน (โอ้ เมิงข้ามทุกสรรพสิ่งและมาถึงหน้าหมู่บ้านเร็วมาก)
ฉันกับแม่เอาของใส่ตะกร้าหน้าจักรยาน และขี่ไปพร้อมกัน ลมเบาเย็นสบาย เป็นเวลาใกล้ๆ จะสีทุ่ม
กลับมาถึงบ้านทันดู "ลำยอง" พอดี ..จบ

แม่ขี่จักรยาน ใส่รองเท้าหนังคู่เก่ง (ต้องเก่งเพราะมีอยู่ไม่กี่คู่ ไว้จะพาแม่ไปดูนะ)
ใส่กางเกงแอโรบิค เสื้อยืด ทุกคนที่เจอมักจะถามแม่ว่า "ไปออกกำลังกายที่ไหน?" 
บางทีก็อยากตอบไปว่า การที่ก้าวเท้าออกจากบ้านมาโดยไม่ได้นั่งรถเก๋งเฉิดฉาย ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งแล้วนะจ๊ะ
แม่และฉันไม่มีตังค์ไปฟิตเนสหรอกจ้ะ

รองเท้าแม่กับฉัน..

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

car a lay!

Quote of the day (from yesterday) : car a lay!

วันนี้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนเว็บไซต์ของจแปนฟาวน์เดชั่น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รู้ว่า เขามีหนังฉาย - ให้ดูฟรี!
แต่ก็ยังไม่มีโอกาสไปดูสักที

ธีมของเดือนนี้คือ GHOST
ลองคลิกเข้าไปดู จากความน่าสนใจของชื่อเรื่อง "โรงเรียนผี"
เออ น่าจะสนุกแบบเด็กๆ ดีนะ
ลองเลื่อนไปดูเรื่องอื่นๆ ข้างบน 
เฮ้ย น่าสนใจว่ะ
อ่านๆ ไปใกล้จะจบแล้ว เฮ้ยๆ ต้องดูว่ะ
โอ้วแม่เจ้า สปอยล์ หมด จบ เยยยย..

อ้อ ประเด็นคือ..ศิลา บัวเพชร ไม่ใช่แล้ว
เออ..เราชอบตอนผัดหมี่มาก ฮาจริง อะไรจริง

กลับมา
ประเด็นคือ เดือนนี้ เราต้องไปเรียนตอนเย็นให้ได้ (อย่างน้อยก็จะโดดไม่เกินหนึ่งวัน)
เอาทั้งซาฟารีมาฉุด เอาซฟีดาทั้งกองที่ยังไม่ไฟนัลมาหยุด..ก็จะไม่อยู่

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ขอให้สงบ

เมื่อหลายวันก่อน มีคุณครูใต้ถูกยิงในโรงอาหารของโรงเรียนขณะนั่งรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับเพื่อนครู และก็เด็กๆ อีกร้อยกว่าคน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ปลายปีที่แล้ว ก็มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายเกินกว่าคนธรรมดาอย่างเราที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่โชคดีแค่ไหนไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จะจินตนาการได้
ขณะที่ดูข่าว แม่เราบอกว่า
ครูใต้ไม่ใช่แนวหน้า 
ใช่ พวกเขาไม่ใช่แนวหน้า ไม่ได้มีหน้าที่ไปออกรบ ไม่มีหน้าที่ไปเสี่ยงตายรบราฆ่าฟันกับโจรผู้ร้าย
พวกเขาเป็นประชาชนคนธรรมดา เป็นคุณครูที่ทำหน้าที่อบรมสั่งสอน ให้ความรู้ ดูแลเด็กๆ  

อีกนานไหม กว่าชายแดนใต้จะสงบ..
   

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Swing กลับมาครั้งยังเพลงฝรั่ง

ช่วงนี้เหมือนถูก swing กลับไปตอนสมัยประถม ที่ชื่นชอบนิยมเพลงฝรั่ง

ช่วงเวลานั้นถ้ามีเรานั่งอยู่ในรถ วิทยุจะถูกหมุนไปที่คลื่น 105.5 อยู่เสมอ (โดยเรา)
เพราะถ้าให้เลือกระหว่าง 105 Smooth FM เราขอฟัง 105.5 เพลงเพราะฟังสบาย ตามสโลแกนคลื่นเขาดีกว่า 55
ต้องออกตัวแรงแก้ตัวกันตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้ามีคนมาเห็นโพสต์นี้แล้วเป็นแฟน 105 จะต้องตามแช่งเราถึงชาติหน้าแน่ๆ 
ไม่ใช่ว่า Smooth แย่กว่า Eazy แต่เพราะเพลงที่เปิดของสองคลื่นเป็นคนละแนว 
Smooth จะเป็นผู้ใหญ่ และสมัยเก่ากว่า Eazy จะเป็นเพลง pop ตามกระแสนิยมในสมัยนั้น
พ่อแม่จึงโปรดปราน Smooth เป็นพิเศษ และ่ที่พิเศษอีกอย่างของ Smooth คือเขามีดีเจฝรั่งเป็นผู้จัดรายการ

จะร่ายยาวไปถึงคลื่นวิทยุที่ฟังสมัยก่อนทำไม ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ 
อยู่ดีๆ ช่วงนี้ก็เกิดอยากฟังเพลงฝรั่งขึ้นมาล่ะ หลังจากก่อนหน้านี้ มีอยู่ช่วงนึง จะขยันคลิกลิงก์เพลงฝรั่งที่มีคนโพสต์ในเฟซบุ๊ค 
แล้วก็เข้าไปฟังตามเขา หรือบางทีก็ฟังตามเพื่อนที่เขาพูดถึงเพลงนั้นๆ ในทวิตเตอร์ 
ตอนนี้ก็เลยเหมือนถูก swing มาทางฝั่งความรู้สึกแบบนั้นบ้างอีกครั้ง

เออ..เฮ้ย เพลงฝรั่งกลับมาฟังอีกกี่ทีก็เพราะดีนะ ฟังสบายๆ ดนตรีก็เก๋ ฟังไม่รู้เรื่องก็หาเนื้อมานั่งคลอ+หอนตาม
แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้ฟังบอยแบนด์เหมือนแต่ก่อนแล้วนะ 55 ให้ไปฟัง one direction ตอนนี้ก็คงไม่ใช่แนวแล้วล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ถ้าไม่ทวีต..

สมมติว่ายังไม่มีทวิตเตอร์ในตอนนี้
แล้วเราอยากพูดแค่สั้นๆ
ต้องคลิก URL บล็อกของตัวเอง ล็อกอินเข้ามา เปิดหน้าที่จะสร้างโพสต์ใหม่
พิมพ์ๆๆ 
อ่าว..เกิน140 ตัวอักษรเสียแล้ว

ปีที่แล้วเปิดไปช่องไหนก็มีแต่รายงานข่าวน้ำท่วม เมื่อกี๊นี้ช่อง7 เป็นภาพอีสานแล้งจัดต้นข้าวยืนต้นท่ามกลางดินแตกระแหง มีปูนอนตายอยู่กลางทุ่ง..


วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผ่านไปได้ไหม?

ไม่รู้นึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างไร เลยลองโฉบเข้ามาดูบล็อกนี้อีกครั้ง
พบข้อความหนึ่งที่เคยประทับใจมาก ถึงกับเอามาตั้งคาดเป็นหัวบล็อก
"the Best you can is Good enough"
ต้องขออภัยที่ไม่ได้อ้างอิง เพราะจำไม่ได้จริงๆ ว่าพบเห็นข้อความนี้ปรากฎอยู่ที่ไหน

พอได้เห็นข้อความนี้อีกครั้งก็รู้สึกว่า
'เฮ้ย เราก็ยังไม่ได้พยายามหรือว่าเต็มที่กับสิ่งที่ทำอยู่อย่างจริงๆ จังเลยนี่หว่า แล้วเราจะคาดหวังให้มันดีได้ยังไง' 

มีคนบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ อาจจะยังไม่ถูกใจไปเสียหมด ให้นึกว่ากำลังเรียนวิชาีที่ไม่ชอบ
ก็คงเหมือนตอนเรียนหนังสือ มีทั้งวิชาที่เราชอบไม่ชอบ ตั้งใจฟังตลอด เรียนบ้าง คุยบ้าง หลับบ้าง โดดบ้าง
แต่ในทุกชั่วโมงของการเรียนการสอนก็มีอะไรให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ
แล้วก็มาถึงจุดที่เราพบว่าตัวเองก็ผ่านมาได้
'เฮ้ย เราก็เรียนจนจบมาได้นี่หว่า 55' 

ลองพยายามดูอีกสักตั้ง แล้วมาดูกันว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม



วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

อะรุไบต์ซีรีย์ - เมื่อบัตรหาย!

พี่ๆ ที่เป็นพนักงานประจำ ทำกันมาสิบยี่สิบปีอย่างพี่อิงและพี่ไก่ ไม่เคยทำบัตรพนักงานหาย
ไบต์ตัวเล็กๆ อย่างเรา ทำมาสามเดือน ความซวยก็บังเกิด..
เช้าวันหนึ่งขณะอยู่บนรถเมล์ ควานหาไอดีการ์ดในประเป๋า แทบจะคว่ำกระเป๋าเทออกมากลางรถเมล์ ก็หามีไม่
ชิบหายแล้ว เอาไปไว้ไหนวะเนี่ย โทรหาแม่ให้ช่วยหาในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่เมื่อวานก็ไม่เจอ - -"
โอ้ว กอด จะเป็นลม
มาถึงที่ทำงาน บอกพี่บิ๊กกับพี่อุ พี่อุแนะนำว่าให้กลับไปหาที่บ้านก่อน
เช้าวันจันทร์บอกพี่บิ๊ก พลิกบ้านหาแล้วนะ ไม่มีจริงๆ - พี่บิ๊กแนะนำให้ไปบอกคุณทางออก (นายญี่ปุ่นที่โคตรใจดี และน่ารักมากกก)
คุณทางออกทำหน้าช็อก - -" นั่นทำให้เราช็อกยิ่งกว่า
คุณทางออกโบ้ยไปให้คุณโฮ (เบอร์2 ของแผนก) เราโดนเรียกไปสอบโดยมีพี่อุมาช่วยเป็นล่ามให้
คุณโฮบอกว่าต้องเขียน report ส่งเบื้องบน - -" เพราะมันเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่(มาก)
จะเป็นลมรอบที่สอง

มองโลกในแง่ดี - ให้นึกถึง "มองโรคในแง่ดี" คอลัมน์ของคุณหมอในอะเดย์
เราเลยได้ฝึกการเขียนภาษาญี่ปุ่นอีกครั้งหลังห่างหายไปตั้งแต่จบ ไม่ใช่สิ ล่าสุด
คือช่วยมะยม(น้องที่สอน)แต่งเรียงความ
ภาษาที่ใช้อย่างกับเด็กม.ปลาย - อายโคตร รูป てมากันให้พรึ่บ ไม่มีฟอร์มของภาษาเขียนใดๆ ทั้งสิ้น - -"
อ.อิไมมาเห็นคนอยากเอาเกรด C+ คืนแล้วแจก D แทน (หรือไม่ก็ให้ F ไปเลย)
ความอับอายยังไม่จบสิ้นแค่ต้องเขียน report บรรยายอย่างโคตรละเอียด (ขนาดที่แอนนาแซวว่าแทบจะบอกสายรถเมล์ที่ขึ้น และพี่อิงบอกว่า น่าสงสารมาก) ให้นายช่วยกัน เอ่อ..ชื่นชมในความสะเพร่า (เพรา
ะเราเอาไอดีการ์ดใส่กระเป๋าหลังกางเกง เป็นไอดีการ์ดเปล่าๆ) เจ้า report อันนี้ก็จะถูกส่งไปยังเบื้องบน
และ..ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในหัวข้อของการประชุมอันยืดยาวของเย็นวันหนึ่ง - -"

ใน report นายบอกให้เขียนเล่าถึงสถานที่ที่ไป ทำอะไร ที่ไหนกับใคร โดยละเอียด
แล้วก็แนะนำว่าสิ่งสำคัญ คือการแสดงความรู้สึกผิด และบอกถึงวิธีการป้อ
งกัน

จึงเป็นที่มาของสิ่งนี้ ซึ่งมีสปอนเซอร์ที่น่ารักอย่างพี่บิ๊กนั่นแล 55 (เอาไว้ห้อยกับคอตลอดเวลา หรือว่าจะใส่กระเป๋าเป้ทันทีที่เข้ามาถึงที่ทำงานก็ตามใจครับผม)