วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Swing กลับมาครั้งยังเพลงฝรั่ง

ช่วงนี้เหมือนถูก swing กลับไปตอนสมัยประถม ที่ชื่นชอบนิยมเพลงฝรั่ง

ช่วงเวลานั้นถ้ามีเรานั่งอยู่ในรถ วิทยุจะถูกหมุนไปที่คลื่น 105.5 อยู่เสมอ (โดยเรา)
เพราะถ้าให้เลือกระหว่าง 105 Smooth FM เราขอฟัง 105.5 เพลงเพราะฟังสบาย ตามสโลแกนคลื่นเขาดีกว่า 55
ต้องออกตัวแรงแก้ตัวกันตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้ามีคนมาเห็นโพสต์นี้แล้วเป็นแฟน 105 จะต้องตามแช่งเราถึงชาติหน้าแน่ๆ 
ไม่ใช่ว่า Smooth แย่กว่า Eazy แต่เพราะเพลงที่เปิดของสองคลื่นเป็นคนละแนว 
Smooth จะเป็นผู้ใหญ่ และสมัยเก่ากว่า Eazy จะเป็นเพลง pop ตามกระแสนิยมในสมัยนั้น
พ่อแม่จึงโปรดปราน Smooth เป็นพิเศษ และ่ที่พิเศษอีกอย่างของ Smooth คือเขามีดีเจฝรั่งเป็นผู้จัดรายการ

จะร่ายยาวไปถึงคลื่นวิทยุที่ฟังสมัยก่อนทำไม ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ 
อยู่ดีๆ ช่วงนี้ก็เกิดอยากฟังเพลงฝรั่งขึ้นมาล่ะ หลังจากก่อนหน้านี้ มีอยู่ช่วงนึง จะขยันคลิกลิงก์เพลงฝรั่งที่มีคนโพสต์ในเฟซบุ๊ค 
แล้วก็เข้าไปฟังตามเขา หรือบางทีก็ฟังตามเพื่อนที่เขาพูดถึงเพลงนั้นๆ ในทวิตเตอร์ 
ตอนนี้ก็เลยเหมือนถูก swing มาทางฝั่งความรู้สึกแบบนั้นบ้างอีกครั้ง

เออ..เฮ้ย เพลงฝรั่งกลับมาฟังอีกกี่ทีก็เพราะดีนะ ฟังสบายๆ ดนตรีก็เก๋ ฟังไม่รู้เรื่องก็หาเนื้อมานั่งคลอ+หอนตาม
แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้ฟังบอยแบนด์เหมือนแต่ก่อนแล้วนะ 55 ให้ไปฟัง one direction ตอนนี้ก็คงไม่ใช่แนวแล้วล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ถ้าไม่ทวีต..

สมมติว่ายังไม่มีทวิตเตอร์ในตอนนี้
แล้วเราอยากพูดแค่สั้นๆ
ต้องคลิก URL บล็อกของตัวเอง ล็อกอินเข้ามา เปิดหน้าที่จะสร้างโพสต์ใหม่
พิมพ์ๆๆ 
อ่าว..เกิน140 ตัวอักษรเสียแล้ว

ปีที่แล้วเปิดไปช่องไหนก็มีแต่รายงานข่าวน้ำท่วม เมื่อกี๊นี้ช่อง7 เป็นภาพอีสานแล้งจัดต้นข้าวยืนต้นท่ามกลางดินแตกระแหง มีปูนอนตายอยู่กลางทุ่ง..


วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผ่านไปได้ไหม?

ไม่รู้นึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างไร เลยลองโฉบเข้ามาดูบล็อกนี้อีกครั้ง
พบข้อความหนึ่งที่เคยประทับใจมาก ถึงกับเอามาตั้งคาดเป็นหัวบล็อก
"the Best you can is Good enough"
ต้องขออภัยที่ไม่ได้อ้างอิง เพราะจำไม่ได้จริงๆ ว่าพบเห็นข้อความนี้ปรากฎอยู่ที่ไหน

พอได้เห็นข้อความนี้อีกครั้งก็รู้สึกว่า
'เฮ้ย เราก็ยังไม่ได้พยายามหรือว่าเต็มที่กับสิ่งที่ทำอยู่อย่างจริงๆ จังเลยนี่หว่า แล้วเราจะคาดหวังให้มันดีได้ยังไง' 

มีคนบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ อาจจะยังไม่ถูกใจไปเสียหมด ให้นึกว่ากำลังเรียนวิชาีที่ไม่ชอบ
ก็คงเหมือนตอนเรียนหนังสือ มีทั้งวิชาที่เราชอบไม่ชอบ ตั้งใจฟังตลอด เรียนบ้าง คุยบ้าง หลับบ้าง โดดบ้าง
แต่ในทุกชั่วโมงของการเรียนการสอนก็มีอะไรให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ
แล้วก็มาถึงจุดที่เราพบว่าตัวเองก็ผ่านมาได้
'เฮ้ย เราก็เรียนจนจบมาได้นี่หว่า 55' 

ลองพยายามดูอีกสักตั้ง แล้วมาดูกันว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม



วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

อะรุไบต์ซีรีย์ - เมื่อบัตรหาย!

พี่ๆ ที่เป็นพนักงานประจำ ทำกันมาสิบยี่สิบปีอย่างพี่อิงและพี่ไก่ ไม่เคยทำบัตรพนักงานหาย
ไบต์ตัวเล็กๆ อย่างเรา ทำมาสามเดือน ความซวยก็บังเกิด..
เช้าวันหนึ่งขณะอยู่บนรถเมล์ ควานหาไอดีการ์ดในประเป๋า แทบจะคว่ำกระเป๋าเทออกมากลางรถเมล์ ก็หามีไม่
ชิบหายแล้ว เอาไปไว้ไหนวะเนี่ย โทรหาแม่ให้ช่วยหาในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่เมื่อวานก็ไม่เจอ - -"
โอ้ว กอด จะเป็นลม
มาถึงที่ทำงาน บอกพี่บิ๊กกับพี่อุ พี่อุแนะนำว่าให้กลับไปหาที่บ้านก่อน
เช้าวันจันทร์บอกพี่บิ๊ก พลิกบ้านหาแล้วนะ ไม่มีจริงๆ - พี่บิ๊กแนะนำให้ไปบอกคุณทางออก (นายญี่ปุ่นที่โคตรใจดี และน่ารักมากกก)
คุณทางออกทำหน้าช็อก - -" นั่นทำให้เราช็อกยิ่งกว่า
คุณทางออกโบ้ยไปให้คุณโฮ (เบอร์2 ของแผนก) เราโดนเรียกไปสอบโดยมีพี่อุมาช่วยเป็นล่ามให้
คุณโฮบอกว่าต้องเขียน report ส่งเบื้องบน - -" เพราะมันเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่(มาก)
จะเป็นลมรอบที่สอง

มองโลกในแง่ดี - ให้นึกถึง "มองโรคในแง่ดี" คอลัมน์ของคุณหมอในอะเดย์
เราเลยได้ฝึกการเขียนภาษาญี่ปุ่นอีกครั้งหลังห่างหายไปตั้งแต่จบ ไม่ใช่สิ ล่าสุด
คือช่วยมะยม(น้องที่สอน)แต่งเรียงความ
ภาษาที่ใช้อย่างกับเด็กม.ปลาย - อายโคตร รูป てมากันให้พรึ่บ ไม่มีฟอร์มของภาษาเขียนใดๆ ทั้งสิ้น - -"
อ.อิไมมาเห็นคนอยากเอาเกรด C+ คืนแล้วแจก D แทน (หรือไม่ก็ให้ F ไปเลย)
ความอับอายยังไม่จบสิ้นแค่ต้องเขียน report บรรยายอย่างโคตรละเอียด (ขนาดที่แอนนาแซวว่าแทบจะบอกสายรถเมล์ที่ขึ้น และพี่อิงบอกว่า น่าสงสารมาก) ให้นายช่วยกัน เอ่อ..ชื่นชมในความสะเพร่า (เพรา
ะเราเอาไอดีการ์ดใส่กระเป๋าหลังกางเกง เป็นไอดีการ์ดเปล่าๆ) เจ้า report อันนี้ก็จะถูกส่งไปยังเบื้องบน
และ..ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในหัวข้อของการประชุมอันยืดยาวของเย็นวันหนึ่ง - -"

ใน report นายบอกให้เขียนเล่าถึงสถานที่ที่ไป ทำอะไร ที่ไหนกับใคร โดยละเอียด
แล้วก็แนะนำว่าสิ่งสำคัญ คือการแสดงความรู้สึกผิด และบอกถึงวิธีการป้อ
งกัน

จึงเป็นที่มาของสิ่งนี้ ซึ่งมีสปอนเซอร์ที่น่ารักอย่างพี่บิ๊กนั่นแล 55 (เอาไว้ห้อยกับคอตลอดเวลา หรือว่าจะใส่กระเป๋าเป้ทันทีที่เข้ามาถึงที่ทำงานก็ตามใจครับผม)




วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

อะรุไบต์ซีรีย์ - นมกล้วยจากเกาฯ

ห่างหายจากการเขียนบล็อกนี้ไปนาน - สงสัยทุกครั้งที่อัพบล็อกต้องขึ้นต้นด้วยประโยคนี้
เฉลี่ยปีนึงอัพที่บล็อกนี้กี่ครั้ง? - ความถี่เท่ากับการลงมือทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ..นอกนั้นเวลาในชีวิตเอาไปทำอะไรหมด(วะ)

ในการอัพครั้งนี้มาเป็นแนวใหม่ใช้ชื่อว่าอะรุไบต์ซีีรีย์
ว่าด้วยชีวิตการเป็นอะรุไบต์ (part-time)
ความจริงเป็น アルバイトมาตั้งแต่เดือนพ.ย.ถึงธ.ค.แล้วนะ แล้วก็ตกงานไปอีกหนึ่งเดือนเต็ม นายไม่ต่อสัญญา เพราะงานน้อย
แล้วก็ได้มาต่อสัญญาอีกทีตอนเดือนก.พ. จนถึงสิ้นเดือนนี้

ตั้งใจอัพบล็อกซีรีย์อะรุไบต์มาสักพักนึงจากเหตุการณ์บัตรหาย (เดี๋ยวไว้เล่าครั้งหน้า)
แต่เพิ่งได้ฤกษ์คราวนี้ เป็นเรื่องนมจากเกาฯ (ไม่ใช่นมจากเต้า)
นมกล้วยจากเกาหลีนี้พี่เก๋ (ผู้มีใบหน้าเยาว์วัย ความไวในการพูด 180กม./ช.ม.)
กับแฟนแบกมาจากเกาหลีเอามาฝากพี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ทำงาน..อร่อยมากกกกก ขวดก็น่ารัก
บ.จ.ถึงกับล้างแล้วเอาใส่น้ำแบกกลับบ้าน55


ขอบคุณนะคร้าบบพี่เก๋ - พี่จินบอกว่า น่าเปิดธุรกิจนำเข้านมกล้วยจากเกาฯ ไม่แน่อาจจะเวิร์ค ก็ไม่แน่นะ เพราะตอนนี้บริษัทนมยี่ห้อนักร้องดูโออาร์เอสก็กำลังโปรโมตนมกล้วยใหญ่เลย มีการเอาไปฝากแมคขายด้วย