วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

何となく

เมื่อวานไปเจอคนญี่ปุ่น 3 ท่าน..(แค่นึกภาพก็จะเป็นลมแล้ว)
ตอนก่อนไป รู้สึกกังวล..จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่แค่กังวลหรอก ~ ประสาทเลยล่ะ 555
แต่พอไปเจอจริงๆ แล้ว โห..รู้สึกซาบซึ้งและก็ประทับใจมากๆ

คนญี่ปุ่นที่ไปเจอ สองท่านเป็นเซนเซที่รร.เก่า (แต่ว่าเราไม่เคยเรียนด้วย) คนญี่ปุ่นอีกท่านเป็นเพื่อนของเซนเซ
เซนเซพาไปร้านอาหารที่จะช่วยฝากให้ทำงาน และก็ไปนั่งกินๆ คุยๆ อะไรกัน
ทั้งเซนเซ กับเพื่อนก็คุยอะไรกันเยอะแยะ ซึ่งเข้าใจบ้าง(บ้างจริงๆ) และไม่เข้าใจบ้าง(เป็นส่วนใหญ่)
และเซนเซกับเพื่อนก็พยามยามชวนเราคุยด้วย
เราก็ยังไม่กล้าพูดเหมือนเดิม ก็เลยพยายามจะฟังผู้ใหญ่เค้าคุยกัน
เวลาที่หน้างงๆ ของเราปรากฎขึ้น เซนเซก็(ใจดีมากๆ)ช่วยอธิบายให้เราช้าๆ ถ้าหน้างงๆ นั้นยังคงงงต่อไป เซนเซก็ถึงกับช่วยอธิบายเป็นภาษาไทยให้เลย 555

มีอยู่คำนึงที่เราได้ยินเซนเซสองคนพูดบ่อยมาก ทั้งๆ ที่รู้ความหมายภาษาไทย จากการเคยเปิดดูในดิก แปลว่า อย่างไรก็ตาม
แต่ตอนฟัง รู้สึกว่ามันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เราลองถามเซนเซ เซนเซก็บอกว่าไม่รู้จะอธิบายยังไงดี 555
ซึ่งมันก็คือคำว่า 何となく เมื่อกี๊ลองเปิดดิคดู จึงพบว่ามันมีความหมายว่า "ยังไงไม่ทราบ" ได้อีกด้วย ก็เลยไม่รู้ว่าตอนที่เซนเซพูด มันจะใช่เซนส์นี้รึเปล่า

ตอนกลับ กว่าจะกินและก็คุยกันเสร็จก็เกือบๆ 2 ทุ่ม เรามาถึงบ้านประมาณ 3 ทุ่ม เซนเซก็โทรมาว่าถึงบ้านเรียบร้อยรึยัง
โห..เราซาบซึ้งมากๆ จำได้ว่าเซนเซพูดมาประโยคนึง ตอนที่กำลังพูดให้กำลังใจเราว่าอย่าเพิ่งท้อ ค่อยๆ เรียนรู้ไป และก็พูดว่า 何となく分かるようにหรือ何となく分かれるよにเนี่ยแหละ ตอนนั้นเรากำลังนึกอยู่แต่ว่า เฮ้ย คำว่า 何となく อีกแล้ว ก็เลยรู้สึกว่า พลาด..น่าจะจับเซนส์ให้ได้ว่าหมายความว่ายังไง
แต่ยังไงก็รู้สึกว่า 先生、昨日、本当にありがとうございました。

ปล.
>> รู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของเซนเซทั้งสองท่านมากๆ เราไปปรึกษาอาจารย์(คนไทย)ที่รร.เก่าเรื่องงานนี้ อาจารย์ก็ช่วยให้คำแนะนำมา ทั้งๆ ที่เซนเซสองท่านไม่เคยสอนเรา เคยเจอกันแบบผ่านๆ ก็่ช่วยให้คำปรึกษาตั้งเยอะแยะ ทำให้เราพอเห็นทางบ้าง และก็ยังอุตส่าห์สละเวลามาช่วยเราด้วย
โห..ขอบพระคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

タスク2

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่มาส่งการบ้าน タスク2 ไม่ตรงเวลา
จากนี้ไปจะตั้งใจเรียน และก็จะ..พยายามทำการบ้านส่งให้ตรงเวลาแล้วค่ะ
(แหะๆ ไม่มีข้อจะแก้ตัวจริงๆ)

เมื่อวานตั้งใจว่าอ่านจดหมายของคุณ大介เสร็จ จะมาเีขียนบล็อก แต่พออ่านจบ..
รู้สึกว่าหมดแรง..เ่อ่อ..ไม่ไหวแล้ว ก็เลยมาเขียนเช้าวันนี้แทน
เช้าเมื่อวานเพิ่งคุยกับฝนเรื่องจดหมายของ
คุณ大介 ว่าผู้ชายคนนี้ดูจะมีจินตนาการสูง 555
และเราสองคนก็นึกขึ้นได้ว่า..เขาไปจ้างให้คนอื่นเขียนจดหมายนี้ให้นี่นา

การบ้านタスク2 อาจารย์ให้การ์ตูนแบบ 4 ช่องมา แล้วสมมติให้เราเล่าการ์ตูน 4 ช่องนี้ให้เพื่อนสนิทฟังโดยการอัดใส่ที่อัดเสียงแทน..ช็อคครับ..วิชานี้ชอบมีอะไรให้ช็อคๆ มาทำอีกแล้ว
การ์ตูนที่ว่าเป็นเรื่องของผู้หญิงที่สวยเพราะว่าการทำศัลยกรรม ทำให้เธอมีแฟนที่หล่อ และก็ใจดีมากๆ
วันนึงแฟนเธอไปเห็นรูปเธอสมัยก่อนทำศัลยกรรม เธอก็เลยตกใจกลัวว่าจะต้องถูกบอกเลิกแน่ๆ แต่ว่า..(จะค้าง...ไว้เพื่อ? เพราะทุกคนก็รู้เนื้อเรื่องอยู่แล้ว 555)
พออัดเสียงเสร็จ รู้สึกว่า "พูดอะไรออกไปเนี่ย"

จากนั้น (หรืออาิทิตย์นึงหลังจากนั้นนะ..) ก็ได้ฟังฉบับเจ้าของภาษาเล่า แบบแรกเป็นของอาจารย์ผู้หญิงและแบบที่สองเป็นของอาจารย์อิไว พอได้ฟังก็รู้สึกว่า..โห! ของจริงเป็นแบบนี้นี่เอง 555

- อาจารย์บอกว่าเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เราก็..ใช้รูป です・ますหมดเลย ไม่ใช่ว่าเป็นคนสุภาพอะไร..แต่ว่าใช้รูปธรรมดาไม่เป็น สังเกตว่าอาจารย์ผู้หญิงจะใช้ だよ、よね อาจารย์อิไวจะใ้ช้ なの、のね、のよอยากใช้คำลงท้ายแบบนี้เป็นบ้างจัง
- เวลาคนญี่ปุ่นเล่า เค้ามีรูปถูกกระทำ เช่น 見られちゃってมีรูปประโยคที่ดูซับซ้อนอย่าง 見られないように気をつけて...ซึ่งเราไม่มีเลย เห็นภาพยังไงเล่าอย่างงั้น อ้อ! ผู้ชายเห็นรูปหรอ..ก็..彼は彼女の昔の写真を見て、...เฮ้อออ
- ตอนที่อาจารย์ให้สังเกตภาษาที่คนญี่ปุ่นเล่า จะได้เห็นสิ่งที่่อาจารย์บอกพวกเราว่ามันคือ メタ言語เป็นครั้้งแรกที่ได้ยินคำนี้ในชีวิต..มันก็คือ ภาษา่ที่ช่วยทำให้เรื่องที่เราเล่ามีความน่าสนใจ อย่างเช่น そこで何と言ったと思う?หรือ もう..大ピンチでしょう?เราว่า ก็จริงนะ มันทำให้คนฟังรู้สึกว่ามีส่วนร่วมอยู่ในเรื่องนั้นด้วย
- ถ้าดูเรื่องของน้ำเสียง ฉบับของอาจารย์ญี่ปุ่นฟังดูน่าตื่นเต้นดีอะ ของเราเหมือนกำลังสวดอะไรสักอย่าง 555
- ที่่เราว่าเจ๋งมากๆ คือ ฉบับของอาจารย์ญี่ปุ่น จะมีการเพิ่มส่วนที่ไม่ได้อยู่ในการ์ตูนเข้าไป เพื่อให้ผู้ฟังเห็นภาพ อย่างแฟนผู้ชายไปที่บ้านเข้าไปในห้องแล้วเห็นภาพ หรืออย่างผู้หญิงคอยระวังเก็บภาพสมัยก่อนไว้ไม่ให้เห็นแต่ด้วยความสะเพร่า.. และก็ตอนท้ายที่เพิ่มส่วนความเห็นของตัวเองเข้าไปอย่าง すごいカップルでしょう?

แต่ตอนนี้ก็ยังมีจุดที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง เช่น
- ฉบับของอาจารย์อิไว ตรงประโยคที่ว่า 彼女にはもったいないぐらいの彼。
- ฉบับของอาจารย์ผู้หญิง ตรงประโยคที่ว่า すごくもてだして、... もてだしてคือ もてるที่แปลว่า เป็นที่ชื่นชอบรึเปล่าทำไมพูดว่า もてだして
- และำก็เรื่อง わけที่จบประโยคของอาจารย์อิไว ไม่เข้าใจว่า มีความหมายยังไง

หวังว่าวันนี้จะไม่ลืมถามเพื่อน เ่้อ้อใช่..ว่าจะถามเมย์ด้วย ว่า
จดหมายของคุณ大介มาจากหนังสือเรื่องอะไร อยากอ่านว่าผู้หญิงคนนั้นเค้าจะตอบคุณ大介ไปว่าอะไรน๊า




วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

タスク1

ตัดสินใจลบที่เคยเขียนไว้ทิ้งดีกว่า...เพราะมันไร้สาระขนาดที่ว่าเขียนเองยังรับไม่ได้ 555

งานชิ้นแรกที่ได้รับมอบหมายคือ การส่งอีเมลล์สมมติหาคุณ山内修二
เพื่อขอสมัครเรียนフラメンゴギター
ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงด้วยซ้ำ เพราะว่า..เ่อ่อ..
ทั้งชีวิต เรียนญี่ปุ่นมาจะ 6 ปีแล้ว ยังไม่เคยส่งอีเมลล์หาคนญี่ปุ่นเลยสักฉบับ
ฉบับแรกเรียกว่าแทบจะลอกข้อมูลที่อาจารย์ให้มาหมดเลยก็ว่าได้
ตรงไหนที่ต้องคิดเอง ภาษาก็เลยแปลกๆ นึกอะไรได้ก็จับเอามาใส่รวมๆ กัน
อย่างเช่น เคยเห็นในบทเรียนว่าเขียนจดหมาย
ต้องลงท้ายว่าお返事をお待ちしています。ก็เขียนลงไป
เขียนถึงใครใช้ へ ใครเป็นคนส่งใช้ より ข้อมูลที่จำเป็นจะต้องสอบถามอย่างวันเวลาที่เรียน ค่าเรียนก็ไม่ได้ถาม
เพราะไม่รู้ว่าควรจะถามอย่างไรดี จะน่าเกลียดมั้ย ถ้าถามตั้งแต่ครั้งแรกที่ส่งเมลล์ไป
แถมไม่ได้เขียนประโยคอย่าง お願いいたします。อีกต่างหาก
สรุปว่าเมลล์ฉบับแรก เละเป็นโจ๊กกันเลยทีเดียว

ฉบับที่สอง หลังจากฟังอีเมลล์ของพี่ๆ เพื่อนๆ ที่แต่ละกลุ่มเลือกมา
(โอ้ววว ทำไมทุกคนเขียนกันเก่งกันจัง - เกิดอารมณ์อิจฉาขึ้นมาทันทีล่ะ
555 )
ที่อาจารย์ช่วยแนะนำให้ในห้อง และก็ชีทที่อาจารย์แจกให้..อื้มมม ของจริงมันควรจะเป็นเยี่ยงนี้ีนี่เอง

คราวนี้เปลี่ยนจากลอกข้อมูลในชีทที่อาจารย์ให้มา มาลอกตัวอย่างในชีทแทน 555
คราวนี้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เช่น
- ควรจะใช้คำว่า先生
/様กับคุณ内修二แทนคำว่า
-
ไม่ต้องใส่へ ที่ชื่อของคุณ内修และไม่ต้องใส่よりที่ชื่อเรา เพราะว่าเป็นจดหมายที่ค่อนข้างเป็นทางการ
- นอกจากการถามเรื่องวันเวลาเรียน ค่าเรียนแล้ว เราต้องบอกข้อมูลเกี่ยวกับระดับความสามารถของเราไปด้วย เช่น ที่เรียนอยู่ปัจจุบันเรียนอาทิตย์ละกี่ชม. เรียนมากี่ปีแล้ว
- สำนวนที่ว่า
お返事をお待ちしています。จริงๆ แล้วไม่ควรใช้เนื่องจากไม่่ใช่อีเมลล์เร่งด่วน สำนวนที่ควรใช้คือお返事は急ぎません。

ก่อนจะเีขียนครั้งที่สาม ในห้องอาิจารย์ช่วยอธิบายให้ฟังอีกหนึ่งเรื่องคือ วันที่เปิดโฮมเพจดู...
อาจารย์บอกว่าไม่ต้องบอกเค้าก็ได้555 เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็น
และก็ลองดูงานของเพื่อนๆ ที่ส่งไปก่อนแล้ว ก็รู้สึกว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องระวังในการเขียนอีเมลล์ เช่น
- คำเชื่อม ไม่ควรใช้ そしてเนื่องจากดูไม่ค่อยสุภาพ ไม่ควรใช้ から ในการบอกเหตุผล เนื่องจากเป็นภาษาที่แข็ง ควรใช้ のでแทน
แล้วก็มีเรื่องของ ところで อันนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน เห็นในงานของเพื่อนอาจารย์แก้มา่ว่าไม่ต้องใช้คำว่า
ところで ตอนย่อหน้าสุดท้าย

ไม่น่าเชื่อ การเขียนอีเมลล์หนึ่งฉบับจะได้เรียนรู้อะไรตั้งขนาดนี้แน่ะ!